คุณสมบัติและลักษณะของผ้า
- ก่อนที่เราจะแนะ นำให้ทุกท่านรู้จัก กับ ลักษณะและคุณสมบัติของเนื้อผ้า เราขออธิบายถึงวิธีการได้มาของผ้า กันก่อนว่ามีขบวนการอย่างไร และต้องใช้วัตถุดิบใดบ้าง เพื่อนำมาใช้ในการผลิตผ้า ดังต่อไปนี้
- ผ้า ผลิตมาจากเส้นด้าย เส้นด้ายผลิตมาจากเส้นใย ดังนั้นลักษณะและคุณสมบัติของเนื้อผ้า จะขึ้นอยู่กับลักษณะและคุณสมบัติ ของเส้นใย และเส้นด้าย
- โดยทั่วไป เส้นใย ที่นิยมนำมาผลิตเส้นด้าย คือฝ้าย และเส้นใยสังเคราะห์ โดยจะมีทั้งฝ้าย 100% เส้นใยสังเคราะห์ 100% หรือนำฝ้ายและเส้นใยสังเคราะห์มาผสมกันในอัตราส่วนต่างๆ กัน ซึ่งจะทำให้ลักษณะและคุณสมบัติของเส้นด้ายแตกต่างกันไป ซึ่งจะส่งผลต่อลักษณะและคุณสมบัติของผ้าด้วย
เส้นด้ายที่ทำมาทอเป็นเนื้อผ้า ที่นิยมใช้ มี 4 ชนิด คือ
1. Cotton 100%(ผ้าฝ้าย)
ฝ้าย (Cotton) คือเส้นใยเก่าแก่ชนิดหนึ่งซึ่งใช้ในการทอผ้ามาแต่สมัยโบราณ สิ่งที่บ่งบอกให้รู้ว่ามนุษย์มีการปลูกฝ้ายและปั่นฝ้ายเป็นเส้นด้ายมานาน แล้ว คือหลักฐานทางโบราณคดีซึ่งขุดพบในซากปรักหักพังอายุประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล ที่แหล่งโบราณคดีโมฮันโจ ดาโร (Mohenjo daro) ซึ่งอยู่ในบริเวณแหล่งอารยธรรมลุ่มน้ำสินธุ ในเขตประเทศปากีสถานปัจจุบัน
ฝ้าย (Cotton) เป็นใยเซลลูโลสได้จากดอกของฝ้าย ผ้าที่ผลิตจากฝ้ายพันธุ์ดีเส้นใยยาว ผิวของผ้าจะเรียบเนียน และทนทาน คุณภาพของผ้าฝ้ายขึ้นอยู่กับพันธุ์ ความยาวและความเรียบของเส้นใย ใยฝ้ายเองไม่ใคร่แข็งแรงนัก แต่เมื่อนำมาทอเป็นผ้า จะได้ผ้าที่แข็งแรง ยิ่งทอเนื้อหนา-แน่นจะยิ่งแข็งแรง ทนทาน ดูดความชื้นได้ดี เหมาะสำหรับทำผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า ผ้าฝ้ายเนื้อบางถึงเนื้อหนาปานกลาง ใช้เป็นชุดสวมในฤดูร้อนจะรู้สึกเย็นสบาย คุณลักษณะเด่นของผ้าฝ้ายคือ
- ยับง่าย รีดให้เรียบได้ยาก แต่ปัจจุบันมีการตกแต่ง (Finish) ทำให้ผ้าไม่ใคร่ยับและรีดให้เรียบได้ง่ายขึ้น
- ซักได้ด้วยผงซักฟอก ซักรีดได้ที่อุณหภูมิสูง
- แมลงไม่กินแต่จะขึ้นรา
- ซักได้ด้วยผงซักฟอก ซักรีดได้ที่อุณหภูมิสูง
- แมลงไม่กินแต่จะขึ้นรา
ผ้าฝ้าย (Cotton) ได้มาจากต้นฝ้ายในส่วนที่ห่อหุ้มเมล็ด หรือที่เรียกว่า ปุยฝ้าย จะมีลักษณะเป็นเส้นเล็ก วิธีใช้งานจะนำฝ้ายมาปั่นเป็นเส้นด้าย แล้วนำมาท่อเป็นผืนผ้า ฝ้ายมีคุณสมบัติเนื้อนุ่ม โปร่งสบาย ระบายความร้อนได้ดี เนื่องจากฝ้ายมีช่องระหว่างเส้นใย จึงเหมาะกับสภาพอากาศในฤดูร้อน และมีคุณสมบัติเมื่อเปียกจะตากแห้งได้เร็ว เป็นเส้นใยธรรมชาติ 100% ผลิตจากฝ้าย สวมใส่สบายอากาศได้ดีซับเหงื่อได้ดีเยี่ยม เนื้อผ้าจะมีลักษณะด้าน แต่ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน คือมันจะยับง่าย เมื่อซักบ่อยๆ ก็จะย้วย
วิธีทดสอบด้วยการเผา
- ติดไฟ ไม่มียาง ไหม้เหมือนกระดาษ เถ้ามีสีเทา นุ่ม เปลวไฟที่ได้จะเป็นสีแดง
ข้อดี
- ความยืดหยุ่นสูง สวยงามสวมใส่สบาย และเป็นเส้นใยธรรมชาติ
- เนื้อนุ่ม ไม่ร้อน ผ้านุ่มเนียนสวย
- ซับเหงื่อและระบายอากาศได้ดีเยี่ยม
- ทนความร้อนและสามารถรีดที่อุณภูมิสูงๆ ได้
ข้อเสีย
- ผ้าจะหดตัว เมื่อผ่านการซักครั้งแรก
- ยับง่าย รีดให้เรียบได้ยาก แต่ปัจจุบันมีการตกแต่ง (Finish) ทำให้ผ้าไม่ใคร่ยับและรีดให้เรียบได้ง่ายขึ้น
- แมลงไม่กินแต่จะขึ้นรา
- เมื่อซักบ่อยๆจะย้วย และหด ยืด ไม่อยู่ทรง ยับง่าย ดูแลรักษาลำบาก สีซีดเก่าเร็ว
- มีราคาสูงกว่าผ้าชนิดอื่น ราคาขึ้นอยู่กับคุณภาพผ้าและร้านขาย
ราคาแบ่งเป็น
สีขาว / สีอ่อน / สีกลาง / สีแก่ / สีพิเศษ
ผ้า Cotton ส่วนใหญ่ จะเน้นเป็นพรีเมื่ยม สำหรับสมนาคุณลูกค้า แถมพร้อมกับสินค้า หรือสวมใส่ธรรมดาตามกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งไม่นิยมทำเป็นเสื้อคนงานเพราะราคาสูง เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้ในที่กลางแจ้งและโดนแดดบ่อยๆ เพราะผ้าจะระบายอากาศได้ดี ไม่ค่อยอมเหงื่อ หรือ สำหรับคนที่ต้องการความหรูหราใส่สบาย แต่ราคาอาจจะสูงกว่าผ้าชนิดอื่นเพราะเป็นเส้นใยธรรมชาติ
เส้นด้ายที่นิยมนำมาทอผ้า Cotton มีดังนี้
- Cotton No.20 เส้นด้ายจะมีขนาดใหญ่สุด ผ้าที่ทอได้จึงหนาพอสมควร
Cotton No.32 เส้นด้ายจะมีขนาดเล็ก ผ้าที่ทอได้จะเนียนและบาง
Cotton No.40 เส้นด้ายมีขนาดเล็กที่สุด ผ้าที่ทอจึงเนียนมาก และบางมาก จึงต้องทอเป็นเส้นคู่ และราคาจะค่อนข้างสูง
คุณภาพเรียงจากต่ำไปสูง
- OE
- CARDED
- SEMI-COMBED
- COMBED
ผ้าที่ทำจากเส้นด้าย OE ก็มักจะมีคุณภาพที่ต่ำกว่าผ้าจากเส้นด้าย Combed ตามลำดับ
ประเภทการปั่นเส้นด้ายมีอยู่ 2 แบบใหญ่อันได้แก่
- การปั่น ลักษณะแบบ Open End เป็น การปั่นที่ที่จะใช้ ลดกระบวนการปั่นในบางขั้นตอนออกทำให้เส้นด้ายที่ผลิตมามีผลผลิตมาก ยิ่งขึ้น แต่ว่าคุณภาพของเนื้อเส้นด้ายก็จะไม่สูงนัก ผ้าที่ออกมาจะมีความกระด้างกว่าเส้นด้ายแบบอื่น
- การปั่นแบบ Ring จะมีกระบวนการผลิตที่ครบถ้วนกว่า OE ทำให้ได้เส้นด้ายที่มีคุณภาพสูงกว่า แต่ในการปั่นแบบ Ring ก็จะมีแยกคุณภาพออกมาหลายอย่าง โดยขึ้นอยู่กับการปรับความสูญเสียในการผลิตว่าจะให้มีมากน้อยแค่ไหน เช่น
- เส้นด้าย Card ก็เป็นการปั่น ring แบบหนึ่งแต่ว่าจะมีการเอาของเสียออกจากกระบวนการผลิตน้อยทำให้เส้นด้ายมี คุณภาพที่ต่ำ มีความกระด้างสูง
- เส้นด้าย SEMI-COMBED ก็เป็นการปั่น ring แบบหนึ่งแต่ว่าจะมีการสางของเสียออกจากฝ้ายในระดับหนึ่ง คุณภาพที่ได้ก็จะอยู่ระดับกลาง ร้านผ้าส่วนใหญ่ในวัดสนนิยมจะใช้เส้นด้ายชนิดนี้
- เส้นด้าย COMBED เป็นการปั่นแบบ ring แต่ว่ามีการใช้หวี มาสางเอาของเสียออกจากตัวเนื้อฝ้าย และเนื้อเส้นด้ายมากกว่าปกติ ทำให้เส้นด้ายที่ออกมามีคุณภาพสูง และมีความเนียนที่สูงกว่า เส้นด้ายอื่นๆ
2. CVC (Cotton 80% + Polyester 20%) , (Cotton 60% + Polyester 40%)
CVC เป็น เส้นใยผสมระหว่าง Cotton และ Polyester ผสมระหว่างเส้นใยธรรมชาติหรือผ้าฝ้าย และเส้นใยสังเคราะห์ มีคุณสมบัติในการระบายอากาศดีจากเส้นใยทั้งสอง สำหรับเนื้อผ้าผสม CVC จะอยู่ที่ Cotton 60-85% ต่อ Polyester 15-40% โดยคุณสมบัติจะแตกต่างกันเล็กน้อย เช่น ผ้า CVC ที่มีส่วนผสม (Cotton60%+ Polyester 40%) ลักษณะโดยทั่วไปของเนื้อผ้ามี มีความยืดหยุ่นอยู่ในระดับปานกลาง การสวมใส่อยู่ทรง สบายตัว การผลิต นิยมใช้ No.20 และ 34 เส้นคู่
CVC ที่มีส่วนผสม (Cotton80%+ Polyester 20%) ความยืดหยุ่นจะสูงมาก การระบายอากาศสูง เนื้อผ้าแน่น เนื้อผ้านุ่ม ใส่สบาย ดูดซับเหงื่อ ไม่มีปัญหาเรื่องผ้าหดตัว ไม่ขึ้นขนเป็นเม็ดก้อน แต่จะฟูด้วยลักษณะของเส้นด้าย เหมาะสำหรับทำ เสื้อโปโล และ เสื้อยืด
จุดเด่นของ ผ้า CVC หรือผ้าเนื้อผสมคือเรื่องการควบคุมการยืด (หด )ย้วยจะทำได้ดีกว่า cotton 100 % แต่ข้อเสียที่ติดมาจากใยสังเคราะห์คือจะระบายอากาศได้ไม่ดีเท่า cotton 100 % (ถึงแม้จะทอให้เส้นใยมีรูเล็ก ๆ เพื่อช่วยในการระบายอากาศแล้วก็ตาม) สวมใส่สบายราคาไม่แพงเท่า Cotton 100% ระบายอากาศได้ดีซับเหงื่อได้ดี ราคาของผ้าขึ้นอยู่กับสีที่เลือก การสวมใส่อยู่ทรง สบายตัวกับผ้า CVC ผ้า CVCไม่มีปัญหาเรื่องผ้าหดตัว ไม่ขึ้นขนเป็นเม็ดก้อน เพราะมีการควบคุมการยืดของเนื้อผ้า ผ้าชนิดนี้มีส่วนผสมเหมือนเนื้อผ้า TC เพียงแค่มีส่วนของ Cotton มากกว่าส่วนผสมของ Polyester
วิธีทดสอบด้วยการเผา
- ติดไฟ ไม่มียาง ไหม้เหมือนกระดาษ เถ้ามีสีเทา นุ่ม แต่จะส่วนผสมของ poly เมื่อเผาแล้วจะมีลักษณะเป็นพลาสติกแข็งติดนิดหน่อย เปลวไฟที่ได้สีแดง เหลือบน้ำเงิน กลิ่นจะมีกลิ่นพลาสติกอยู่นิดหน่อย
ข้อดี
- สวยงาม เนื้อผ้านุ่มแน่น ใส่สบาย ไม่ร้อน
- ดูดซับเหงื่อ ระบายอากาศได้ดี และอยู่ตัวกว่า Cotton 100% ไม่มีปัญหาเรื่องผ้าหดตัว
- ไม่ขึ้นขนเป็นเม็ดก้อน แต่จะฟูด้วยลักษณะของเส้นด้าย
ข้อเสีย
- จะคล้ายผ้า Cotton เพียงแค่จะหดย้วยน้อยกว่าเท่านั้น และราคาก็สูงกว่า TC เป็นผ้าที่ไม่ค่อยนิยมใช้งานกันมากนักในตลาดทั่วไป
- ระบายอากาศได้ไม่ดีเท่า cotton 100 %
ราคาแบ่งเป็น
สีขาว / สีอ่อน / สีกลาง / สีแก่ / สีพิเศษ
3. TC (Cotton ผสมPolyester / Cotton 35%+Poly 65%)
TC (Toray tetoron+Cotton) เป็น เส้นใยผสมระหว่าง Cotton และ Polyester เป็นเนื้อผ้าเส้นด้ายผสมระหว่างเส้นใยธรรมชาติ และเส้นใยสังเคราะห์ % การผสมกันระหว่างเส้นใย Cotton 100% และเส้นใยสังเคราะห์ เปอร์เซ็นต์การผสมของผ้า TC ระหว่าง Polyester และ Cotton จะอยู่ที่อัตราส่วนของ Cotton 35% และ Polyester 65% เส้นด้ายที่นิยมนำมาทอผ้า TC คือเบอร์ 20 และ 32 และ 40 เสื้อยืดที่ผลิตจากผ้าประเภทนี้ ราคาอยู่ในระดับปานกลาง โดยขึ้นกับเบอร์ผ้า และ เส้นใยผ้า มีลักษณะนุ่มและบาง
ผ้าชนิดนี้นิยมทอผ้าให้มีลักษณะเป็นรู (ทอแบบ juti รูจะเป็นรูปรังผึ้ง) เนื่องจากผ้าประเภท TC และ TK มีคุณสมบัติในการระบายอากาศได้ไม่ค่อยดีนัก การทอผ้าชนิดนี้จึงนิยมทอผ้าให้มีรูเล็กๆ เพื่อช่วยในการระบายอากาศ และเพื่อความสบายในการสวมใส่ เนื้อผ้า TC จะมีลักษณะมัน (น้อยกว่า TK) ราคาของผ้าขึ้นอยู่กับสีที่เลือก เนื้อผ้าเส้นด้ายผสมระหว่างเส้นใยธรรมชาติ และเส้นใยสังเคราะห์ การสวมใส่จะสบายตัว และไม่ยับง่าย ความยืดหยุ่นปานกลาง ใช้ในการผลิตมากที่สุด
ปัจจุบันเนื้อผ้า TC มีการใช้ในการผลิตเสื้อโปโล หรือ เสื้อยืด หรือยูนิฟอร์มมากที่สุด เนื่องจาก ราคาอยู่ในระดับกลาง ๆ กล่าวคือ ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป ผู้บริโภคเองสามารถรับได้ ในการผลิต ก็เช่นเดียวกัน คือ ลักษณะของเนื้อผ้าที่ใช้กันนิยมใช้ No.20 และ 34 เส้นคู่
ข้อดี
- สวมใส่สบาย ระบายอากาศปานกลาง
- เนื้อผ้านุ่ม การดูดซับน้ำดีพอใช้ ดูแลรักษาง่าย
- อายุการใช้งานใกล้เคียงกับเนื้อผ้า Cotton 100% และใช้งานได้นานกว่าเนื้อผ้า TK
- ไม่ยับง่าย เสียทรงเมื่อมีการซัก หรือ แช่น้ำ หลังจากการใช้งาน
- ราคาย่อมเยา
ข้อเสีย
- เนื้อผ้าค่อนข้างบาง
- เนื้อผ้าจะไม่เนียนสวยเท่า Cotton
- อายุการใช้งานค่อนข้างสั้นถ้าเทียบกับ Cotton
ราคาแบ่งเป็น
สีขาว / สีอ่อน / สีกลาง / สีแก่ / สีพิเศษ
เหมาะกับคนที่เหงื่อออกง่ายแม้ทำงานอยู่ในห้องแอร์ เพราะระบายอากาศได้ดีพอสมควรและข้อดีที่โดดเด่นกว่า
Cotton 100% คือ อยู่ทรง ไม่หดไม่ย้วยง่ายเท่า Cotton นิยมทำเป็นเสื้อฟอร์มพนักงาน เพราะราคาปานกลาง ระยะเวลาการใช้งานเหมาะสม
Cotton 100% คือ อยู่ทรง ไม่หดไม่ย้วยง่ายเท่า Cotton นิยมทำเป็นเสื้อฟอร์มพนักงาน เพราะราคาปานกลาง ระยะเวลาการใช้งานเหมาะสม
เส้นด้ายที่นิยมนำมาทอผ้าTC มีดังนี้
- TC No.20 เส้นด้ายจะมีขนาดใหญ่สุด ใช้ทอได้ทั้งผ้าเรียบและผ้าจูติ
TC No.34 เส้นด้ายจะมีขนาดเล็กมาก ใช้ทอผ้าจูติ จึงต้องทอเป็นเส้นคู่
4. TK (Polyester หรือใยสังเคราะห์ / Polyester 100%)
เป็น เส้นใยสังเคราะห์ผลิตจาก Polyester ผ้าใยสังเคราะห์ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า TK มีส่วนผสมของ Polyester 100% เนื้อผ้าจะมีลักษณะมันผิวผ้าเป็นเงามากกว่า TC คุณสมบัติทั่วๆไป คือ ผ้าจะไม่ค่อยยับ อยู่ทรง ไม่ย้วย สีไม่ตก แต่ข้อเสียก็คือเสื้อที่ทำจากผ้า TK ใส่แล้วจะร้อน เนื่องจากระบายอากาศไม่ดีผ้า TK จึงนิยมทอ ให้มีลักษณะเป็นรูเช่นกัน ทนทานหาได้ง่ายและวางขายตามท้องตลาด โดยทั่วไปแล้ว จะมีกรรมวิธีการทอเป็นแบบเนื้อ 17, 20 และ 34 เส้นคู่ ไม่ค่อย ซับเหงื่อ รีดง่าย ยับยาก ไม่หด ไม่ยืด ใช้งานไประยะหนึ่งจะเกิดการขึ้นขนเป็นเม็ดก้อนจึงเหมาะสำหรับทำ เสื้อโปโล
ข้อดีของเนื้อผ้า TK ชนิดนี้ คือ ราคาค่อนข้างถูก ผ้า TK คงสภาพอยู่ทรง ไม่หดไม่ย้วย เนื้อผ้าจะมีความมัน เสื้อยืดที่ทำจากเนื้อผ้าประเภทนี้จะมีราคาถูกที่สุด ส่วนข้อเสียคือใช้ไปนาน ๆ จะมีลักษณะ เป็นขน และสีหมองคล้ำ เนื้อผ้าจะระบายอากาศได้น้อยมาก ถ้าใส่อยู่ในที่แดดร้อน ๆ หรืออากาศอบอ้าว จะรู้สึกไม่สบายตัว โดยเฉพาะคนที่เหงื่อออกง่ายจะยิ่งชุ่มไปด้วยเหงื่อ เนื่องจากเนื้อผ้าดูดซับเหงื่อได้น้อย และเมื่อใส่ไปนาน ๆ (ซักบ่อย ๆ) เสื้อผ้าจะขึ้นขุย
ข้อดี
- ราคาที่ถูกกว่าเนื้อผ้าอื่นๆ ทำให้ประหยัดงบประมาณ
- ผ้าทนทาน อยู่ตัว ไม่หดไม่ย้วย หรือเสียทรงเมื่อมีการซัก หรือแช่น้ำหลังจากการใช้งาน
- หาซื้อง่ายตามท้องตลาด
ข้อเสีย
- ผ้าจะเป็นเม็ดเมื่อผ่านการซัก
- สีจะหมองคล้ำลงเมื่อผ่านการใช้งานนานๆ
- เนื้อผ้ากระด้าง ระบายอากาศไม่ดี
- ไม่ดูดซับน้ำ ซับเหงื่อ เวลาใส่ในที่อากาศร้อน
เหมาะที่จะใช้ในห้องแอร์ ไม่ค่อยโดนแดด
ราคาแบ่งเป็น
ราคาทุกสีจะเป็นราคาเดียวกัน
เส้นด้ายที่นิยมนำมาทอผ้าTK มีดังนี้
- TK No.17 เส้นด้ายจะมีขนาดใหญ่สุด ใช้ทอได้ทั้งผ้าเรียบและผ้าจูติ
- TK No.20 เส้นด้ายจะมีขนาดเล็กกว่า TK No.17 ใช้ทอได้ทั้งผ้าเรียบและผ้าจูติ
- TK No.34 เส้นด้ายจะมีขนาดเล็กมาก ใช้ทอได้ทั้งผ้าเรียบและผ้าจูติ และทอเป็นเส้นคู่
ข้อแนะนำการซักและการดูแลรักษาเสื้อยืดให้อยู่กับเรานานๆ
- ให้แยกซักระหว่างผ้าขาวกับผ้าสี แนะนำให้ซักมือจะดีกว่า
- ผงซักฟอกให้เลือกที่ไม่รุนแรง และ ถนอมใยผ้าครับ
- ไม่ควรตากโดยใช้ไม้แขวนเสื้อ ให้กลับด้านแล้วพาดเสื้อกับที่ราวตากผ้า
- เมื่อเสื้อแห้งถ้าไม่จำเป็นไม่ควรใช้ไม้แขวนเสื้อนะครับ ควรผับเก็บจะดีที่สุดครับ
เนื้อผ้าที่นำมาทำเสื้อยืดนั้นมีหลายเกรดหลาย ราคา รวมถึงคุณสมบัติของเนื้อผ้าก็แตกต่างกัน ก่อนจะซื้อเสื้อยืดหรือสั่งตัด ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับคุณสมบัติของผ้าแต่ละชนิด
การแบ่งประเภทของผ้าตามส่วนผสมของเส้นด้าย ที่นิยมใช้งานโดยทั่วไปจะแบ่งได้ดังนี้
ชื่อเรียก | ส่วนผสมของเส้นด้าย | ลักษณะและคุณสมบัติ | ลักษณะการใช้งาน | ||
ความยืดหยุ่น | การระบายอากาศ | ลักษณะทางกายภาพ | |||
Cotton | ฝ้าย 100% (Cotton 100%) | สูงมาก | สูงมาก | เนื้อผ้านุ่ม เห็นเส้นใยฝ้ายฟูบาง | ใส่สบาย ดูดซับเหงื่อ แต่มีปัญหาเรื่องผ้าหดตัว ยืด ย้วย |
CVC | เส้นด้ายผสม (Cotton80%+Poly20%) | สูงมาก | สูงมาก | เนื้อผ้าแน่น เนื้อผ้านุ่ม | เนื้อผ้า แน่น นุ่ม ใส่สบาย ดูดซับเหงื่อ ไม่มีปัญหาเรื่องผ้าหดตัว |
TC | เส้นด้ายผสม (Cotton65%+Poly35%) | ปานกลาง | ปานกลาง | เห็นใยฝ้ายฟูบาง เนื้อผ้าค่อนข้างนุ่ม | ใส่สบาย น้อยกว่า CVC ไม่มีปัญหาเรื่องผ้าหดตัว |
TK | เส้นใยสังเคราะห์ (Polyester 100%) | น้อย | น้อย | เป็นมันเงา | ไม่ค่อย ซับเหงื่อ รีดง่าย ยับยาก ไม่หด ไม่ยืด |
ลักษณะ และคุณสมบัติของผ้าดังกล่าวเป็น เพียง ลักษณะโดยทั่วไปเท่านั้น เพราะในความเป็นจริงแล้ว คุณสมบัติของเส้นใยที่นำมาผลิตด้าย และผ้านั้นยังมีรายละเอียดอีกมากมาย เช่น ด้ายที่ผลิตจากเส้นใยสั้น ด้ายที่ผลิตจากเส้นใยยาว หรือถ้าวิเคราะห์ตามคุณสมบัติของเส้นใยที่มีผลต่อคุณสมบัติของผ้า เราอาจจะต้องพิจารณา สมบัติความเป็นมัมวาว การทิ้งตัวของผ้า เนื้อผ้า คุณสมบัติต่อผิวสัมผัส การทนต่แรงเสียดสี ความทนต่อแรงดึง การดูดซับน้ำ เป็นต้น